ผู้ป่วยโรคเบาหวานหลายๆคนที่เลือกใช้สารสกัดจากเห็ดหลินเป็นยารักษา ผลลัพธ์ที่ได้ในแต่ละคนจะมีความแตกต่างกันออกไป แล้วแต่ร่างกายหรืออาการของโรคของแต่ละคน แต่ส่วนใหญ่แล้วอาการข้างเคียงของผู้ที่ใช้เห็ดหลินจือ เพื่อรักษาโรคเบาหวานระดับน้ำตาลในเลือดจะเพิ่มสูงขึ้น แต่จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วยแต่ละคน ซึ่งกระบวนการรักษาของเห็ดหลินจือจะเป็นการรักษาระยะยาว โดยอาการจะดีขึ้นเรื่อยๆเพราะเห็ดหลินจือจะช่วยไปขับน้ำตาลในเลือด ช่วงที่ผู้ป่วยเบาหวานทานเห็ดหลินจือแรกๆอาจจะมีผลข้างเคียงคือ รู้สึกวูบ อ่อนเพลีย แต่เมื่อทานไปสักระยะอาการดังกล่าวก็จะหายไป และเริ่มรู้สึกว่าร่างกายแข็งแรง สดชื่นขึ้นอย่างมาก
เห็ดหลินจือกับสรรพคุณที่ช่วยบรรเทาโรคเบาหวาน
ถึงแม้ว่าโรคเบาหวานจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดจนเป็นปกติได้ แต่เห็ดหลินจือสามารถช่วยบรรเทาอาการของโรคเบาหวาน ให้อยู่ในระดับที่เกือบปกติได้ด้วยสรรพคุณดังนี้
1. Ganoderans A , B และ C เป็นสารที่สำคัญกับร่างกายอย่างมาก และอยู่ในเห็ดหลินจือแดง ถูกจัดให้อย่ในกลุ่ม Polysaccharride ช่วยกระตุ้นการสร้างอินซูลิน เมื่อร่างกายมีกระบวนการสร้างอินซูลินที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น อาการของโรคเบาหวานก็จะดีขึ้น ซึ่งคนส่วนใหญ่ที่เป็นโรคเบาหวานจะไม่สามารถสร้างอินซูลินได้เต็ม แต่เห็ดหลินจือที่ผู้ป่วยทานเข้าไปจะไปช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างอินซูลินให้มีประสิทธิภาพขึ้น จึงทำให้อาการของโรคเบาหวานไม่กำเริบ และไม่ลุกลาม
2.สารสำคัญที่อยู่ในเห็ดหลินจือแดงที่ชื่อว่า การโนโทสเทอโลน จะช่วยเข้าไปบำรุงตับอ่อน ทำให้ตับแข็งอรงขึ้นและทำงานได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งสารตัวนี้ยังสามารถช่วยป้องกันไม่ให้สารพิษมาทำร้ายตับด้วย การทานเห็ดหลินจือจึงสามารถช่วยบรรเทาโรคเบาหวานได้ในระดับดี เนื่องจากตับอ่อนจะมีหน้าที่ผลิตฮอร์โมนอินซูลิน เมื่อตับมีความแข็งแรงพอก็จะสามารถผลิตอินซูลินได้อย่างเพียงพอ ทำให้ระดับน้ำตาลในเดือดอยู่ในเกณฑ์ที่ดีไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป
3.การทานเห็ดหลินจือสามารถช่วยควบคุมความอยากทานอาหารหวานๆหรือเครื่องดื่มหวานๆได้ เพราะอาการหวาน ที่มีน้ำตาลสูงเป็นอาหารต้องห้ามของผู้ป่วยเบาหวานอยู่แล้ว เพราะการทานอาหารที่มีปริมาณน้ำตาลสูงจะกระตุ้นให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้
4.เห็ดหลินจือมีสารอาหารสำคัญอยู่จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเกลือแร่ วิตามินต่างๆ ซึ่งสารอาหารเหล่านี้ล้วนช่วยเผาผลาญพลังงานในร่างกายให้เป็นปกติได้ โดยเฉพาะกระบวนการเปลี่ยนน้ำตาลให้กลายเป็นพลังงาน หากเมื่อไหร่ที่กระบวนการเหล่านี้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาการของโรคเบาหวานก็จะไม่ลุกลามไปยังอวัยวะส่วนอื่นๆในร่างกาย จนเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆถึงขั้นเสียชีวิตได้